คุนหมิง (Kunming) เป็นเมืองเอกในมณฑลยูนนานในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวนประชากรประมาณ 3,740,000 คน โดยมีประมาณ 1,055,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบเตียนฉือด้านทิศเหนือ ด้วยประวัติศาสตร์ กว่า 2400 ปี และการที่เป็นประตูสู่เส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้า สู่ ทิเบต เสฉวน พม่า และ อินเดียในอดีต ตลอดกับปัจจุบันนี้คุนหมิงเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม รวมไปถึง การคมนาคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมณฑลยูนนาน และส่งผลให้กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และเนื่องจากมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี จึงถูกขนานนามว่า "นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ"
สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองคุนหมิง ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้แก่
ประตูมังกร เขาซีซาน
คนจีนกล่าวไว้ว่ามาถึงคุนหมิงจะต้องไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วฐานะจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยเท่า มีตำนานเล่ากันมาว่า ในสมัยก่อนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดคือแม่น้ำเหลืองจะมีปลาหลีหือซึ่งเป็นปลาประจำชาติของจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้งหนึ่งเกิดน้ำท่วมทำให้ปลาไหลไปอยู่ตามแม่น้ำสายอื่น เมื่อปลาไปอยู่แม่น้ำอื่นปลาไม่ชินกับคุณภาพน้ำจึงมีความพยายามว่ายทวนน้ำเพื่อกลับไปอยู่ในแม่น้ำเหลืองของปลา ท่านเลยสั่งให้ไปสร้างประตูตรงแม่น้ำเหลือง ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามประตูได้ ท่านก็จะให้เป็นมังกร ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามไม่ได้ ก็ต้องไปอยู่ในแม่น้ำเหลือง ปลาก็เลยมีความพยายามไปกระโดดข้ามประตูเพื่อเป็นมังกร เลื่อนจากปลาเป็นมังกรถือว่าฐานะของปลาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ดังนั้นประตูมังกรเหมือนเป็นการสอนคนจีนมาโดยตลอด คือเมื่อเรามีความพยายามก็จะประสบความสำเร็จ
อุทยานป่าหินยูนนาน
ตั้งอยู่ในอำเภอสือหลินเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานของจีน ห่างจากตัวเมืองคุนหมิง 78 กม. มียอดหินและเสาหินใหญ่น้อยตั้งเรียงรายกระจัดกระจายอยู่ตามเนินเขา หุบเขา และในพื้นที่ราบ ป่าหินแห่งนี้จัดว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในป่าหินมีทางแยกมากกว่า 400 สาย มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด จึงได้สมญานามว่า "วังวนใต้ทะเล" หินลักษณะสวยงามแปลกตาเหล่านี้ล้วนเป็นหินปูนที่แต่เดิมอยู่ใต้ผิวน้ำและเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหินเหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำกลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่นป่าหินแห่งนี้ประมาณกันว่า มีอายุราว 270 ล้านปี
ทะเลสาบเตียนฉือ (Dianchi Lake) มีพื้นที่ 300 ตร.กม. เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของจีน ด้วยทัศนียภาพ และตั้งอยู่บนที่ราบหยุนกุ้ย ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่า ที่ราบไข่มุก ทะเลสาบนี้มีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ยาว 39 กม. และกว้าง 13 กม. ในจุดที่กว้างที่สุด มีภูเขาล้อมรอบ 4 ด้าน และแม่น้ำกว่า 20 สาย รวมระยะยาวตลอดชายฝั่ง ถึง 163.2 กม. เนินเขาที่ล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ประกอยด้วยทัศนียภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยว รู้สึกเบิกบานใจ และ อยากชื่นชมความงามของธรรมชาติในที่แห่งนี้อย่างไม่อยากจะจากไป หากคุณล่องเรือ รอบๆทะเลสาบคุณจะได้สัมผัสทั้งความงามของธรรมชาติและเรียนรู้ถึงต้นกำเนิดวัฒนธรรมยูนนาน
วัดทอง (Golden Temple) ตั้งอยู่บนยอดเขาหมิงเฟิง เป็นวังของ ไท่เหอ เจ้าลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นวัดทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในจีน รู้จักกันในชื่อทงวา แต่ที่รู้จักกันมากที่สุดคือ วัดทอง วัดนี้สร้างในสมัยราชวงศ์หมิงและรัชสมัยฮ่องเต้ว่านหลี่ ในปี 1602 ในช่วงนั้นข้าหลวงผู้ซึ่งเคร่งครัดในลัทธิเต๋า ได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าจื่อซื่อ ตามตำนาน ว่า จื่อซื่อมีตำหนักทองอยู่ทางปลายสุดทางด้านเหนือของจักรวาล แต่ตำหนักทองหลังนี้ตั้งอยู่ได้ไม่นาน เพียง 35 ปี ต่อมา ในปี 1637 วัดดั้งเดิมทั้งหมด ได้ถูกย้ายไปตั้งที่เขาฉือซู่ เขาทางด้านตะวันตกของมณฑลยูนนาน 3 ทศวรรษต่อมา ในปี 1671 ในช่วงราชวงศ์ชิง หู ซานกุ้ย ข้าหลวง มณฑลยูนนาน ได้สร้างวัดนี้ใหม่อีกครั้งในรูปแบบดั้งเดิม วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ได้นานถึง 200 ปี จนกระทั่ง เกิดกบฏ ปี 1857 ซึ่งเป็นเหตุให้วัดทองนี้ได้รับความเสียหาย
ต่อมาในปี 1890 จักรพรรดิ กวางซู่ได้สั่งให้ ซ่อมแซม โดยใช้ ก้อนทองสำริดถึง 250 ตัน ในการบูรณะวัดทั้งหลัง ยกเว้นในส่วนของขั้นบันได และราวระเบียง ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อน กำแพง เสา คาน หลังคา กระเบื้อง แท่นบูชา พระพุทธรูป กำแพงรอบๆภายในวัดตกแต่งด้วยทองแดงดูแวววาวดั่งทอง คนจึงเรียกว่า วัดทองนั่นเอง นับแต่การบูรณะในครั้งนั้นวัดทองแดงแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ที่สูงสุดของเนินเขาหมิงเฟิง ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และถือเป็นศาลเจ้าลัทธิเต๋าที่ขึ้นชื่อของมณฑลยูนนาน
วัดหยวนทง(Yuantong Temple) ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาหยวนทง ทางตอนเหนือของเมืองคุนหมิง ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1200 ปี วัดหยวนทงนี้เป็นวัดพุทธที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของมณฑลยูนนาน ฮ่องเต้ อวี้เหม่าซุน แห่งราชอาณาจักรหนานโจว ได้สร้างวัดนี้ขึ้น ระหว่าง ศตวรรษที่ 8 และ ซึ่งต่อมาเป็นวัด ผู่โถวเหลา แต่เมื่อมีการบูรณะอีกครั้งในสมัยราชวงศ์ชิง ก็กลับมาใช้ชื่อหยวนทงเหมือนเดิม โดยเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานรูปแบบของหยวนและหมิง สืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันภายในวัดตกแต่งร่มรื่นสวยงาม กลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยมกลางสระ ด้านหลังวัดเป็นอาคารสร้างใหม่ ประดิษฐานพระพุทธรูป พระพุทธชินราช(จำลอง) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ ที่วัดแห่งนี้
ถ้ำจิ่วเซียง Jiu Xiang เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามตระการตามาก เป็นถ้ำมหัศจรรย์ของจีนที่สวยงามมากและเป็น 1 ใน 10 สถานที่สำคัญทางธรรมชาติของมณฑลยูนาน ถ้ำนี้เกิดจากการกัดเซาะของภูเขาไฟโบราณ จนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดยาว 3-4 กิโลเมตรช่วงแรกจะเดินผ่านไปทางเส้นทางที่ขนานไปกับภูเขาสูง เข้าชมความงามภายในถ้ำจิ่วเซียง ที่ประกอบด้วยหินงอกหินย้อยที่สวยงามรูปร่างแปลกตาเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดภายในถ้ำนี้ก็คือตอนกลางของถ้ำจะมีลำน้ำทั้งสายลงมาจากหน้าผาตกลงมาเป็นน้ำตก 2 สาย เรียกกันว่า น้ำตกผัวเมีย เป็นน้ำตกใหญ่และตกอยู่กลางระหว่างถ้ำเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก สมกับคำกลอนที่ว่า บนดินชมป่าหินงาม ใต้ดินชมจิ่วเซียง
สนใจทัวร์คุนหมิง ดูรายละเอียดได้ที่
http://www.doubleenjoy.com/ทัวร์เที่ยวจีน/ทัวร์คุนหมิง.aspx
ขอขอบคุณข้อมูล และภาพสวยๆ จาก
1. www.qetour.com
2. www.wonderfulpackage.com