วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซื่อกูเหนี่ยงซัน (ภูเขาสี่ดรุณี) ประเทศจีน




ซื่อกูเหนี่ยงซัน (ภูเขาสี่ดรุณี)

          ภูเขาสี่ดรุณี  มีชื่อว่า  ซื่อกูเหนี่ยงซัน  อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน  เขตวนอุทยานฉางผิง  มณฑลเสฉวน  เหนือมณฑลยูนนานติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต  ห่างจากเฉิงตู  เมืองหลวงของมณฑลเสฉวนประมาณ 220  กิโลเมตร   วนอุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่าสองพันตารางกิโลเมตร  มีชนกลุ่มน้อยหลายเชื้อชาติอยู่ตามหุบเขาและลำธารน้อยใหญ่  เช่น  เชื้อชาติทิเบต  ยี่ เมี่ยว หุย  เซียง  แต่บริเวณใกล้ ซื่อกูเหนี่ยงซัน  มีหมู่บ้านชาวทิเบตและเจดีย์โบราณแบบทิเบต  ดังนั้นเรื่องเล่าต่อไปนี้  สันนิษฐานว่าเป็นเรื่องของชนเผ่าทิเบต  เรื่องมีอยู่ว่า

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้มีวิชา เก่งกาจด้านการต่อสู้และเวทย์มนต์คาถา  อาจารย์ท่านนี้มีลูกสาวอยู่สี่คน  ซึ่งนางทั้งสี่  มีหน้าตาและรูปร่างสวยงาม  เป็นที่ร่ำลือไปทั่วแคว้นน้อยใหญ่ ความงามของนางทั้งสี่เป็นที่เลื่องลือไปถึงยักษ์ตนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในดินแดนตอนเหนืออันห่างไกล  ยักษ์ตนนั้นจึงอยากได้นางทั้งสี่มาเป็นภรรยา ยักษ์จึงเดินทางมาสู่ขอกับอาจารย์  อาจารย์ท่านนั้น  เห็นว่าเป็นยักษ์  จึงไม่ยอมยกลูกสาวให้  เกิดการต่อสู้กันทำให้สภาพพื้นที่ของหมู่บ้านเปลี่ยนแปลง  เกิดภูเขาใหญ่น้อย  พายุฝน  ลูกเห็บ  หิมะ มากมาย


          ในที่สุดอาจารย์ผู้เป็นบิดาก็พ่ายแพ้แก่ยักษ์  นางทั้งสี่หรือ สี่ดรุณี   จึงหนีไปด้วยความกลัว  นางรอนแรมหนีเข้าป่าไปหลายวันหลายคืนจนหมดแรง  เหนื่อยอ่อน  ยักษ์ก็ตามมาติดๆ  จนกระทั่งเกิดพายุใหญ่หอบนางทั้งสี่มาบริเวณภูเขาและพายุก็พาเอาหิมะมาเกาะ  ปกคลุมตัวนาง  แข็งตายเป็นภูเขาสี่ดรุณี ซื่อกูเหนี่ยงซัน (ซื่อ แปลว่าสี่  กูเหนี่ยง แปลว่า หญิงสาว ซัน แปลว่า ภูเขา ) ลักษณะของ ซื่อกูเหนี่ยงซัน  เป็นภูเขาหินสูงใหญ่ สี่ ลูกเรียงกัน  มีหิมะปกคลุมเกือบตลอดปี  โดยเฉพาะตรงยอดเขา และมีเขาลูกหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด  สูงที่สุด  ว่ากันว่านั่นคือน้องสาวคนสุดท้อง  เพราะตามธรรมเนียมของชนเผ่าท้องถิ่น  คนน้องจะมีความเป็นอยู่สบายที่สุด  ตัวจึงโตที่สุด  คนพี่นั้นต้องทำงานช่วยบิดามารดา  และเลี้ยงน้อง  ร่างกายจึงไม่เจริญเติบโตเต็มที่

          จากเรื่องเล่านี้  เราสามารถเรียนรู้และมองเห็นได้หลายอย่าง  เช่นบิดาที่เป็นอาจารย์  ในสมัยโบราณ  การเป็นอาจารย์ไม่ใช่เป็นผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหนังสือ  ตำรา  แต่เป็นผู้รู้  ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการต่อสู้  หรือเวทย์มนตร์ เหนือมนุษย์  สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ในสมัยก่อนที่เน้นความเป็นอยู่  มีการต่อสู้  การดำรงชีวิตอยู่มากกว่าปัจจุบัน  หรือ เรื่องการเลือกคู่ของหญิงชนเผ่า  ในแถบเทือกเขาทางตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน  มีหลายเผ่าที่หญิงเป็นใหญ่  และมีสิทธิ์  มีเสียงของตนเอง  จากเรื่องเล่านี้เราจะเห็นว่าทั้งนางเองและบิดาของนาง  ต่างไม่ยอมให้แก่ยักษ์  และในเรื่องเล่าเองฝ่ายชายแทนที่จะเป็นมนุษย์หรือโจร กลับเป็นอมนุษย์ ซึ่งหากเป็นมนุษย์ผู้ชายแล้ว  คงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้  คงต้องยอมรับการตัดสินใจของฝ่ายหญิงแต่โดยดี

 
          นอกจากนั้น  ยังมีวิถีชีวิตที่ถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน คือการที่พี่ต้องทำงานหนักมากกว่าน้อง  โดยเฉพาะพี่คนโตที่ต้องรับภาระช่วยบิดามารดาทำงาน  ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือนอกบ้าน   ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากภูเขาคนน้องที่สูงใหญ่  โตกว่าพี่ๆ

          และการที่ให้ภูเขาเป็นเพศหญิงนั้น  มองได้หลายมุมเช่นกัน  ซื่อกูเหนี่ยงซัน  แม้จะเป็นภูเขาหิน  ไม่มีต้นไม้ใหญ่  แต่ก็เต็มไปด้วยหิมะตลอดปี  ซึ่งเป็นแหล่งน้ำ  หิมะที่ละลายจากยอดเขาในเวลากลางวันหรือเมื่อฤดูร้อน  ก็จะเป็นสายน้ำที่หล่อเลี่ยงหมู่บ้านแถบเชิงเขา  ที่ทำการเกษตร  เป็นแหล่งน้ำให้คนและสัตว์ได้อาศัย   เสมือนเป็นแม่ผู้เลี้ยงดูลูก  ตลอดจนลักษณะของภูเขาที่สวยงาม  เปลี่ยนสีที่สะท้อนจากท้องฟ้าตามเวลาและฤดูกาล  ก็เปรียบได้กับหญิงที่สวยงามเหล่านี้เป็นต้น

          หากใครจะมองภูเขาสี่ดรุณีนี้ว่าเป็นเพียงความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น  ความงามนั้นก็คงจะจบลงเมื่อมองด้วยสายตาเท่านั้น  แต่เมื่อได้มองและเข้าใจถึงตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา  เราจะเห็นความงามของวิถีชีวิต  รวมถึงขนบและวิธีคิดของผู้คนแถบนั้นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น


ขอบคุณข้อมูล และภาพสวยๆ จาก
1.www.outlooktravel.co.th
2.www.go4get.com